top of page
  • Writer's pictureFrisbee & Co.

เทคนิคการลงทุนในช่วงภาวะตลาดหมี

Updated: Sep 7, 2022


S&P 500 ในช่วงตลาดหมี


ผ่านครึ่งปี 2022 ที่ผ่านมา ดัชนี ต่างๆปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง S&P500 ซึ่งเป็นดัชนีหลักของ US ปรับลดลงราว 20% ซึ่งเข้านิยามของภาวะตลาดหมีพอดี ซึ่งเป็นการที่ให้ผลตอบแทนครึ่งปีแรกแย่ที่สุดในรอบ 52 ปีเลยทีเดียว



NASDAQ ตลาดหลักทรัพย์ที่เต็มไปด้วยหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน


ส่วน Nasdaq ซึ่งเป็นตลาดที่เต็มไปด้วยหุ้นเทคโนโลยีปรับตัวลงหนักราว 30% ซึ่งพอร์ตหุ้นของทีมงาน Frisbee ก็ได้รับผลกระทบไม่ต่างกัน น้ำมันแพง สงครามยูเครน-รัสเซียไม่มีทีท่าว่าจะจบ เงินเฟ้อทั่วโลก เศรษฐกิจ US ถดถอยอย่างเป็นทางการจากการที่ GDP เป็นลบติดต่อกัน 2 ไตรมาส ทำให้มีคนถามเข้ามามากว่าเรายังเชื่อมั่นในตลาดหุ้นได้หรือไม่ Frisbee ขอตอบว่า เราเชื่อมั่นตลาดหุ้นไม่เปลี่ยนแปลงและเชื่อมั่นกว่าเดิมด้วยซ้ำไป เราจะมาแนะนำว่าเราจะลงทุนอย่างไรในภาวะที่ตลาดซบเซาแบบนี้




ทำไมยังเชื่อมั่นในตลาดหุ้น


หากคุณดูตลาดหุ้น US ย้อนหลังไป 100 ปี เราจะพบว่าผลตอบแทนที่ตลาดทำได้โดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 8% ทบต้น ซึ่ง 100 ปีที่ผ่านมามีภาวะตลาดซบเซามานับครั้งไม่ถ้วน ผ่านสงคราม เงินเฟ้อ โรคระบาด สารพัดปัญหาตลอดเวลา และทุกๆครั้งตลาดจะกลับมาได้ดีกว่าเดิมเสมอ ถ้าคุณลงทุนใน S&P500 50 ปีที่ผ่านมาด้วยเงิน 1 ล้าน ตอนนี้คุณจะมีเงินราวๆ 100 ล้านบาทเลยทีเดียว หรือให้ผลตอบแทน 100 เท่าใน 50 ปี เชื่อเถอะว่าไม่มีสินทรัพย์อะไรที่จะได้ผลตอบแทนดีขนาดนี้ แถมไม่ต้องเสียค่าดูแล โปร่งใสมีคนตรวจสอบให้ตลอดเวลา (อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับภาวะหุ้น 100 ปีได้ที่นี่ คลิก) และถามว่าช่วงไหนที่น่าลงทุนที่สุด คำตอบก็คือง่ายๆคือตอนที่มันถูกที่สุดยิ่งถูกผลตอบแทนก็ยิ่งมาก ดังนั้นการลงทุนที่ดีที่สุดคือลงทุนในภาวะตลาดหมีนั่นเอง




ซื้อเมื่อไหร่ดี


เป็นคำถามแรกที่ทุกคนจะถาม เชื่อว่าทุกท่านอยากทราบว่าเมื่อไหร่หุ้นขึ้น ซึ่งเราตอบได้เลยว่า “ไม่รู้” สิ่งที่ควรทำคือเราต้องไม่ออกจากตลาดและพร้อมจะซื้อเพิ่มขึ้นเรื่อย ดังนั้นเราแนะนำให้ทยอยแบ่งเงินเป็นสามหรือสี่ส่วน เช่นถ้าเราต้องการลงทุนด้วยเงิน 1 ล้านบาท เราอาจจะแบ่งเงินออกเป็น 2.5 แสนบาท 4 ก้อน แล้วซื้อไป 4 ครั้งตามระยะเวลาห่างเท่าๆกัน ซึ่งในตลาดมักจะเรียกวิธีนี้ว่า DCA หรือ Dollar Cost Average วิธีการนี้ทำให้เวลาหุ้นตกเราจะซื้อหุ้นได้ถูกลงซึ่งเป็นเรื่องดี ถ้าหุ้นขึ้นเราจะได้กำไรจากเงินก้อนที่ซื้อไปแล้ว ทำให้ไม่กดดันต่อผู้ซื้อมาก สิ่งที่เราไม่แนะนำคือไปคาดหวังว่าซื้อแล้วหุ้นต้องขึ้นเพราะตลาดหมีอาจจะกินเวลาสั้นมากหรือกินเวลายาวนานมากก็เป็นได้




ซื้อด้วยเงินเท่าไหร่


แต่ละท่านมักจะมีกำลังความสามารถในการเข้าซื้อได้ไม่เท่ากัน แต่หลักการง่ายๆของการลงทุนอย่างที่กล่าวมาคือเราไม่รู้ว่าตลาดหมีจะกินเวลานานแค่ไหน(ยาวนานที่สุดของ S&P500 ไม่เคยเกิน 5ปี) สิ่งที่เราควรจะต้องอยู่ให้ได้คือทนกับภาวะตลาดให้ได้ยาวนานพอ ดังนั้นซื้อด้วยเงินเย็นที่เราสามารถไม่ใช้มันได้อย่างน้อยๆ 5 ปี และไม่ใช้เงินกู้หรือ Margin ในการซื้อเด็ดขาด แม้ว่าเราจะคิดถูกว่าหุ้นตัวนั้นดี แต่บางทีกว่าสิ่งที่คิดจะแสดงออกได้อาจใช้เวลาซึ่งเมื่อไหร่ที่เราใช้เงินกู้บางทีเราอาจจะเจอเหตุการณ์ที่จากคำว่าถูกมันมีถูกกว่าที่เราเจอเข้าไปอีก อาจทำให้โดนบังคับขายก่อนเวลาอันควรได้ (Forced Sell) การซื้อขายหุ้นระยะเวลาที่ใช้ในการลงทุนเป็นสิ่งสำคัญที่สุดดังนั้นเราต้องทำให้เวลายืนอยู่ข้างเรา ซึ่งหากเราใช้เงินกู้เราอาจจะยืนอยู่คนละฝั่งกับเวลาทันที




ซื้อหุ้นอะไร


คำถามนี้ถ้าเกิดขึ้นกับใครก็ตามแต่ คุณไม่ใช่นักลงทุนแล้ว สิ่งที่ควรทำคือหาคนมาลงทุนแทน หรือไม่ก็ซื้อ ETF หรือที่เรียกว่ากองทุนอิงดัชนีที่ค่าบริหารต่ำที่สุด ส่วนคนที่ชอบเลือกหุ้นเอง สิ่งที่แนะนำคือให้กระจายความเสี่ยงอย่างเพียงพอ อย่าลงทุนในหุ้นน้อยตัวจนเกินไปและไม่ลงทุนในอุตสาหกรรมเพียงอุตสาหกรรมเดียว




สิ่งที่ควรสนใจให้น้อย


เอาจริงๆแล้วสิ่งที่สื่อต่างๆออกมาทุกๆวันไม่ว่าจะเป็นการประโคมข่าวเรื่องเงินเฟ้อ ดอกเบี้ย สงคราม สารพัด เรามองเป็นเหมือนบรรยากาศการลงทุน มันเป็นไปไม่ได้เลยที่คุณจะคาดหวังให้บรรยากาศมันดีตลอดไป เหมือนกับเวลาใช้ชีวิต การลงทุนก็เช่นเดียวกัน คุณคงไม่หยุดชีวิตคุณหรือหยุดงานคุณเพียงเพราะมันเกิดบรรยากาศที่ไม่ดี มีใครหยุดธุรกิจเพราะสิ่งเหล่านี้ที่กล่าวมา จริงอยู่ที่สิ่งเหล่านี้กระทบการลงทุน แต่ด้วยข้อแนะนำในวิธีการซื้อหุ้นอย่าง DCA ที่เรากล่าวไปแล้วจะทำให้คุณละเลยภาวะเหล่านี้ได้อย่างสบายใจ จากสิบกว่าปีที่เราลงทุนมาตลอดและไม่เคยออกจากตลาดไม่ว่าภาวะตลาดเป็นแบบไหนก็แล้วแต่ เราได้อ่านข่าวในทำนองนี้ทุกวัน และทุกๆครั้งที่วิกฤติใหม่มามันจะสร้างข่าวให้ดูเหมือนมันรุนแรงกว่าทุกครั้งที่เคยเจอมาเสมอ และรุนแรงจนโลกนี้จะทนแทบไม่ได้ แต่เราก็เห็นมันผ่านมาได้เป็นร้อยๆปีแล้ว เราเลยแนะนำว่าสนใจเศรษฐศาสตร์มหภาคให้น้อยๆ แล้วอะไรล่ะที่เราควรสนใจ




ตลาดหุ้นเดือน 7


NASDAQ มีการปรับตัวขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง 2022

ณ เวลาที่เราเขียนบทความนี้เป็นเวลาสิ้นเดือนกรกฎาคม 2022 พอดี ซึ่งสิ่งที่น่าสนใจและเราแนะนำให้ทุกคนสนใจคือการดำเนินงานของบริษัท ซึ่งก็คือสิ่งที่จะวัดมูลค่าของบริษัทอย่างแท้จริงไม่ใช่ข่าวโคมลอยหรือภาวะเศรษฐกิจทั่วๆไปอีกต่อไป เดือนกรกฎาคมเป็นเดือนที่ตลาดหุ้นปรับตัวอย่างโดดเด่น ตรงข้ามกับครึ่งปีแรกอย่างมาก เป็นเดือนที่ตลาดหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 2 ปีเลยทีเดียว Nasdaq ปรับตัวขึ้นกว่า 10%



ซึ่งหลายๆท่านที่ลงทุนตามที่เราแนะนำคือซื้อหุ้นในภาวะตลาดหมีหลายๆคนได้รับผลตอบแทนสูงกว่า 20% ใน 1 เดือน เราไม่ได้อยากจะเอาสิ่งที่เกิดขึ้นใน 1 เดือนมาวัดแต่ในเดือนกรกฎาคมเป็นเดือนที่น่าสนใจคือเป็นเดือนที่ผลประกอบการครึ่งปีแรกของบริษัทต่างๆประกาศ ซึ่งหลายๆบริษัทประกาศงบการเงินมียอดขายกำไรที่เติบโตอย่างยอดเยี่ยม (คลิกเพื่อดูตัวอย่าง)



หุ้น LVMH ช่วง 30 มิถุนายน - 29 กรกฎาคม 2022

หุ้น Hermes ช่วง 30 มิถุนายน - 29 กรกฎาคม 2022

หุ้น Netflix ช่วง 30 มิถุนายน - 29 กรกฎาคม 2022

หุ้น Amazon ช่วง 30 มิถุนายน - 29 กรกฎาคม 2022

หุ้น Apple ช่วง 30 มิถุนายน - 29 กรกฎาคม 2022

ซึ่งทำให้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้น ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นที่สอดคล้องกับมูลค่าที่แท้จริงของบริษัท แม้ว่าเราจะสนใจผลประกอบการแค่ครึ่งปีไม่มากนักแต่มันก็สะท้อนความสามารถของบริษัทที่ยอดเยี่ยมได้เป็นอย่างดี ว่าแม้จะอยู่ในภาวะที่ข่าวร้ายเต็มตลาด ดอกเบี้ยที่ปรับสูงขึ้น น้ำมันแพง บริษัทเหล่านี้ก็ยังสามารถสร้างยอดขายและกำไรได้ดีเยี่ยม




หุ้นตกคือโอกาส???



สิ่งที่เราเล่ามาอาจทำให้ทุกท่านเข้าใจว่าหุ้นตกคือโอกาส ซึ่งก็ถูกแต่ไม่ทั้งหมด ถ้าหากผลการดำเนินงานแย่ลงแล้วล่ะก็หุ้นที่ตกอาจะเป็นวิกฤติก็เป็นได้ ดังนั้นเราไม่แนะนำอย่างมากที่ใช้วิธีขายหุ้นที่ขึ้นมาซื้อหุ้นที่ตก เพราะหลายๆครั้งมันคือการเด็ดดอกไม้แล้วไปรดน้ำให้วัชพืช หากคุณจะซื้อหุ้นที่ตกลงมาตัวไหนสิ่งสำคัญคือคุณต้องแน่ใจว่าสิ่งที่ซื้อไม่ใช่วัชพืช หุ้นที่ตกจากผลการดำเนินงานที่แย่อาจจะไม่มีวันกลับไปมีราคาเท่าเดิมอีกเลยก็เป็นได้ แต่หากผลการดำเนินงานดีต่อเนื่อง แล้วหุ้นตกลงมา ถ้าคุณไม่ซื้อแพงจนเกินไป คุณจะไม่มีวันขาดทุนกับบริษัทที่ผลการดำเนินงานดีต่อเนื่องอย่างแน่นอน



ทีมงาน Frisbee จะดีใจมากถ้าบทความนี้ทำให้เพื่อนๆไม่ออกจากตลาดในวันที่ตลาดย่ำแย่ และเราจะดีใจมากขึ้นไปอีกหาเพื่อนๆซื้อเพิ่มในบริษัทที่รู้จักและศึกษาเป็นอย่างดี



 

ติดตาม และอ่านบทความอื่นๆของพวกเรา Frisbee & Co. ได้ที่ LINE Official: @frisbee Twitter: @FrisbeeCo Website: frisbeeandco.com

Comments


bottom of page