top of page

Netflix กับการรายงานผลประกอบการณ์ที่แย่ที่สุดในประวัติศาสตร์ (Q1 2021) จริงหรือ?

Updated: Dec 21, 2021



Netflix

ค่าย สตรีมมิ่ง หนังอันดับ 1 ของโลก ด้วยสิ้นสุด Q1 2021 มี Subscriber ทั่วโลก ประมาณ 207.64 ล้านคน น้อยกว่าที่ผู้บริหารคาดการณ์ไว้ที่ประมาณ 210 ล้านคน (ไตรมาส 1 ปี 2021 เพิ่มขึ้น 4 ล้านคน ไตรมาส 1 ปี 2020 เพิ่มขึ้น 15.8 ล้านคน) และในไตรมาศ 2 ปี 2021 ทางผู้บริหารก็คาดการณ์การเพิ่มขึ้นของ Subscriber เพียง 1 ล้านคนโดยประมาณ ทั้งที่ปี 2020 ในไตรมาสที่ 2 มี Subscriber เพิ่มขึ้น 10.1 ล้านคน โดยผู้บริหาร ให้เหตุผลสองข้อว่า


1. ปี 2020 มีการเพิ่มขึ้นของ Subscriber มากกว่าปกติมาก ในไตรมาส 1 และ 2เพราะคนต้องอยู่บ้านจากเหตุการณ์ Covid ทำให้ปี 2021 เหมือนโดนปีที่แล้วดึงความต้องการไปมากพอสมควร

2. เหตุการณ์ Covid ทำให้การผลิตซีรีย์หรือภาพยนตร์ต่างๆ ทำให้ช้าลง ทำให้การกระตุ้นความอยากเข้ามาสมัครสมาชิกของสมาชิกใหม่ๆ ไม่เกิดขึ้นนัก โดยที่ ซีรีย์จำนวนมากที่วางแผนจะฉายในช่วงครึ่งปีแรกของ 2021 ต้องไปฉายในช่วงครึ่งปีหลัง




แต่ในปัญหาที่เกิดขึ้น ผู้บริหารก็รายงานความเชื่อมั่น

ต่อกิจการตัวเองหลายอย่าง ดังต่อไปนี้


1. รายได้และกำไรของบริษัทเพิ่มขึ้นสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยมีรายได้ 7,163 ล้านดอลลาร์ และกำไร 1,707 ล้านดอลลาร์ มากกว่าปี 2020 ไตรมาสแรกที่ทำรายได้เพียง 5,768 ล้านดอลลาร์และกำไรเพียง 709 ล้านดอลลาร์ ซึ่งอันที่จริงส่วนหนึ่งกำไรที่มากกว่าเท่าตัวเกิดจากการที่ค่าใช้จ่ายในการผลิตหนังลดลง และกำไรจากค่าเงิน


2. แม้ว่าในช่วงปลายปี 2020 มีการขึ้นราคา ค่าสมาชิกใน US แต่อัตราการยกเลิกไม่ได้เพิ่มขึ้น แสดงให้เห็นว่า สมาชิกมีการใช้งานต่อเนื่องจริงๆและมีลูกค้าที่ผันผวนต่อราคาน้อย นอกจากนั้นบริษัทยังป็นบริษัทที่มีอัตราการยกเลิกสมาชิกต่ำมากเทียบกับ Streaming อื่นๆ


3. บริษัทเชื่อมั่นว่าในระยะยาว ธุรกิจ Streaming ยังเพิ่งเริ่ม และจะเป็นอนาคตของโลกนี้แน่นอน แต่ในระยะสั้นอาจจะมีความผันผวนได้ (คาดว่า Streaming มีส่วนแบ่งแค่ 10% หรือว่าน้อยกว่านั้นถ้าเทียบกับ TV ปกติใน US ซึ่งในประเทศอื่นๆยิ่งน้อยกว่านั้นเข้าไปอีก) และสามารถขยายตัวได้อีกอย่างมากโดยเฉพาะ Asia ซึ่งมีฐานสมาชิกเพียงประมาณ 25 ล้านคนเท่านั้น โดยมีฐานสำคัญที่ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินเดีย และ อินโดนีเซีย


4. บริษัทไม่คิดว่าการเติบโตของสมาชิกที่ลดลงเกิดจากการแข่งขัน เพราะการแข่งแข่งขันมีมาต่อเนื่อง และปี 2020 อาจจะแรงกว่าด้วยซ้ำ เพราะมีการเปิดตัว Disney+ ในปลายปี 2019

ส่วนคู่แข่งรายอื่นๆก็เข้ามาในตลาดนานแล้ว


5. บริษัทยังมีเรตติ้งของ ซีรีย์ต่างๆที่ทำออกมายอดเยี่ยมและยังมีแผนที่จะทำหนังและซีรีย์และหนังฟอร์มยักษ์ออกมาอีกในช่วงครึ่งปีหลัง 2021 อาทิ Red Notice (Gal Gadot , Dwayne Johnson) , Don’t Look Up ( Leonardo DiCaprio , Jennifer Lawrence) , Sex Education …

เพื่อนๆล่ะครับมองกรณีนี้อย่างไร


 

ติดตาม และอ่านบทความอื่นๆของพวกเรา Frisbee & Co. ได้ที่ LINE Official: @frisbee Twitter: @FrisbeeCo Website: frisbeeandco.com


Comments


bottom of page